หมู่บ้านบูเอยเนสอาจเป็นที่สุดท้ายในโลกที่คุณคิดว่าจะมีคนอยู่ได้ ที่นี่ในฤดูหนาวคุณแทบจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนธันวาคมและมกราคม ดังนั้นคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องของต้นไม้หรือพืชผักผลไม้ ท่ามกลางก้อนหินและเนินเขาที่แห้งแล้งของที่นี่ มันอาจมีพุ่มไม้และต้นไม้ยืนต้นอยู่ได้เพียงหรอมแหรม แต่พวกมันทั้งหมดล้วนเหี่ยวเฉา ถูกลมโบยตี และแน่นอนว่า ไม่มีต้นไหนสามารถกินได้เลย ลึกเข้าไปในแผ่นดิน คุณเห็นว่ามีฝูงกวางเรนเดียร์ไม่กี่ฝูงที่พยายามยังชีพด้วยการแทะเล็มมอสที่อยู่ใต้หิมะ แต่แถวนั้นก็มักจะไม่มีอะไรให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้
แต่ถ้าคุณมีความทรหดอดทนมากพอจะฝ่าลมพายุที่หนาวเหน็บของอาร์กติกอันแห้งแล้งไปตามถนนคดเคี้ยวเพื่อเดินทางสู่หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอาจมีระยะทางไกลพอๆกับการเดินทางไปยังยุโรปแผ่นดินใหญ่ ที่นั่นคุณจะพบกับชุมชนแห่งหนึ่งที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ชีวิตที่นี่เป็นอะไรที่ทรหดสุดขั้วในทุกๆด้านจนยากที่จะบรรยาย เพียงย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วอายุคน ชาวเมืองที่มีเพียง 300 คนก็เคยคิดว่าจะอพยพจากที่นี่ไปพร้อมๆ กัน หากแต่ด้วยการพยายามเปลี่ยนผู้บุกรุกให้กลายเป็นแหล่งอาหารและทรัพยากรที่มีค่าแพิเศษเฉพาะตัว บูเอยเนสก็สามารถกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในแบบที่คนที่นี่จะไม่นึกฝันว่าอยากจากหมู่บ้านนี้มาก่อนเลยทีเดียว